ทริปล่าหมอก เที่ยวเขาค้อไม่ง้อฝน ไหว้พระธาตุ จิบกาแฟ ชมหมอก กอดเขาสุดฟิน.....
หน้าฝนแบบนี้...คิดถึงภูเขาเขียวๆ
ที่เขาค้อขึ้นมาชะมัด นานแล้วที่เราไม่ได้ออกเดินทางไปกอดสายหมอกยามเช้า
ว่าแล้วก็ลงมือจัดกระเป๋าออกไปเที่ยวกันเลยดีกว่า มีเวลาสั้นๆ แค่ 2
วัน 1 คืนก็เที่ยวเขาค้อได้
สำหรับวิธีการเดินทางไปเที่ยวเขาค้อที่ง่ายที่สุดก็คือรถส่วนตัว ใช้เวลาเดินทางแค่ 5-6
ชั่วโมงก็ถึงเสน่ห์ของการขับรถไปเที่ยวเอง คือเราสามารถแวะที่ไหนก็ได้ระหว่างทางมีอะไรที่น่าสนใจให้แวะชมมากมาย
ไปเขาค้อที่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยจริงๆ
แต่ก่อนจะออกเดินทาง
ก็ต้องเตรียมความพร้อมให้รถกันก่อนหลายคนอาจจะกังวลเรื่องเส้นทางขึ้นเขาค้อที่บางช่วงค่อนข้างชันและแคบ
แถมยังอาจจะเจอหมอกฝนระหว่างทาง ดังนั้น นอกจากตรวจเช็คสภาพรถ ทั้งเบรก ลมยาง ฯลฯ
แล้ว อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ "การเลือกเติมน้ำมัน” ที่นอกจากจะพาเราขับเคลื่อนไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
การเลือกเติมน้ำมันที่ดียังช่วยปกป้องและดูแลรถคู่ใจที่เรารักไปในตัวด้วย
ทริปนี้ เราเลือกเติม
“ซูพรีมพลัส” น้ำมันเกรดพรีเมียมจากเอสโซ่
ที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มสมรรถนะกว่าน้ำมันสูตรมาตรฐาน
นอกจากช่วยปกป้องเครื่องยนต์และทำความสะอาดอย่างเหนือชั้น
ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และประหยัดน้ำมัน
คืนพลังให้เครื่องยนต์ทำงานต่อเนื่องได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะทริปที่ต้องขับรถข้นลงเส้นทางที่เป็นภูเขาสูงชันแบบนี้...การเลือกเติมน้ำมันดีๆ
ก็ช่วยให้เรามั่นใจทุกครั้งในการเดินทางตลอดทั้งเส้นทาง
แถมช่วงนี้ ยังมิทธิพิเศษและโปรโมชั่นดี๊...ดี
เมื่อเติมน้ำมันเอสโซ่ ซูพรีมพลัส ทุกประเภท ทั้งซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95 และซูพรีมพลัส
ดีเซล ทุก 700 บาท รับไปเลยน้ำดื่ม 1.5
ลิตร ฟรี 2 ขวด พร้อมรับคะแนนสะสมเอสโซ่ สไมล์ส 2 เท่า
ตั้งแต่ 16 กันยายน 2561-
15 พฤศจิกายน 2561
นี้เท่านั้นใครกำลังแพลนทริปขับรถไปเที่ยวที่ไหน...รีบไปเติมน้ำมันที่ปั๊มเอสโซ่
แล้วรับสิทธิพิเศษคุ้มสองต่อแบบนี้กันไปเลย
(สังเกตปั๊มที่ร่วมรายการจากโฆษณาหน้าปั๊ม
หรือเข้าไปเช็ครายชื่อสถานีบริการน้ำมันที่ร่วมรายการที่ https://www.essosmiles.com/Supremepluspromo/)
โดยเราสามารถเอาคะแนนเอสโซ่
สไมล์สไปใช้แลกสิทธิพิเศษทั้งช้อป ชิม ชม ต่อได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะแลกเป็นคะแนนเทสโก้โลตัสคลับการ์ด
หรือแลก McDonald’s,
Starbucks e-Coupon และแลกตั๋วดูหนังในเครือเมเจอร์
ซีนีเพล็กซ์และอีจีวีทุกสาขา เพราะฉะนั้น ใครอยากได้คะแนนเอสโซ่ สไมล์ส
สมัครฟรีได้ที่สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ทุกสาขา หรือ Add line เพื่อรับสิทธิประโยชน์ง่ายๆ
อีกมากมาย พิเศษรับ 250 คะแนน เมื่อผูกบัตรเอสโซ่ สไมล์สผ่าน
LINE @EssoThailand
17 กันยายน 2561 – 31 ธันวาคม 2561
เติมน้ำมันเต็มถังพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปเขาค้อกันได้เลยจุดแรกที่เราไปแวะกันคือ
“วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” สถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คของเพชรบูรณ์
ภาพของยอดเจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิตสีทองอร่าม
บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุประดับประดาด้วยแก้วเบญจรงค์และเศษแก้ววิจิตรงดงามหลากสีสัน
คือเสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพากันหลั่งไหลมาชมความงามที่นี้
นอกจากนี้
ภายในวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วยังมีแลนด์มาร์คอีกแห่งอย่างมหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5
พระองค์ โดดเด่นด้วยพระพุทธรูปสีขาวที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าทั้งห้าองค์ในภัทรกัป
สร้างลดหลั่นกันอย่างงดงาม ท่ามกลางสายหมอกและขุนเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง
จัดเป็นอีกหนึ่งวัดสวยอันซีนของเมืองไทย
ที่ใครมาเที่ยวเขาค้อแล้วพลาดไม่ได้ต้องมาชมด้วยตาตัวเองสักครั้ง
เที่ยววัดอิ่มบุญอิ่มใจกันแล้ว
ชักเริ่มหิว...เราไปทานมื้อกลางวันกันที่ “โรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า”
ร้านอาหารวิวสวยที่เพิ่งเปิดใหม่บนเขาค้อ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดผาซ่อนแก้วมากนัก
แต่ถนนทางขึ้นไปยังร้านนั้นค่อนข้างแคบและชันมาก
จนบางช่วงเราจะเห็นรถบางคันต้องจอดแอบข้างทาง โชคดีที่พวกเราเติมน้ำมันพรีมเมียมอย่างซูพรีมพลัสมาเต็มถัง
จังหวะขึ้นเขาเลยเร่งเครื่องได้ดี ไม่มีสะดุด
ขับยาวต่อเนื่องได้ถึงร้านบนยอดเขาแบบไม่ต้องกังวล
ตัวร้านตกแต่งอย่างโดดเด่นด้วยสไตล์จีนโมเดิร์น
ผสมกลิ่นอายแดนมังกรด้วยหลังคาเก๋งจีน และโคมไปจีนสีแดงประดับตกแต่งอยู่ภายในร้าน
เมนูเด่นที่นี่เป็นอาหารสไตร์จีนยูนนาน
จานเด็ดพลาดไม่ได้มาแล้วต้องสั่งเลยคือ เมนูนี้ “ขาหมูหมั่นโถวสูตรยูนนาน” ขาหมูตุ๋นมาจนหนังเปื่อยนุ่มละลายในปาก
ทานคู่กับหมั่นโถวแป้งนุ่มจานใหญ่ หากกลัวเลี่ยนแนะนำจากนี้ ยำยอดฟักแม้ว รสจัดจ้าน
ต่อด้วยต้มจืดเยื่อไผ่เนื้อปู เสิร์ฟมาในหม้อไฟร้อนๆ ซดคล่องคอ
ถ้ายังไม่อิ่มไปทานของหวาน
จิบกาแฟแก้ง่วงหลังอาหารกันต่อที่ “ตั๊กม้อ คอฟฟี่ เขาค้อ” ร้านกาแฟที่อยู่บริเวณติดกันกับร้านอาหารเลยค่ะ
เดินแค่ไม่กี่ก้าว...เราก็ได้นั่งจิบกาแฟชมวิวบนที่นั่งริมระเบียงเอาท์ดอร์ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบสุดสายตา
และยังสามารถมองเห็นวิวพระธาตุผาซ่อนแก้วอยู่ไกลๆ ได้อีกด้วย
ตอนบ่ายเราไปเช็คอินเข้าที่พักคืนนี้ของเรากันที่
“วิน วิว อิงลิช โรส การ์เด้นท์ รีสอร์ท เขาค้อ” (Vin
View English Rose Garden Resort Khaokho) จุดเด่นของที่นี่ คือสวนกุหลาบสวยสไตร์อังกฤษ มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ
และบ้านพักที่ดีไซน์ให้กลิ่นอายกระท่อมในชนบทแนวอิงลิชคอทเทจสีสันสดใส
มื้อเย็นเราทานอาหารเย็นกันที่รีสอร์ท
พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศสุดโรแมนติก บอกเลยว่าฟินมากๆ เลยค่ะ
เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นแต่เช้าเพื่อขันรถไปชมทะเลหมอกกันที่
“จุดชมวิววัดกองเนียม”
อีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกของเขาค้อที่ได้ชื่อว่าวิวสวยที่สุดแห่งหนึ่ง
และยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากบริเวณนี้อีกด้วย
จากจุดชมวิววัดกองเนียม
เราขับรถมาแวะอีกจุดหนึ่งคือ “ที่ทำการไปรษณีย์เขาค้อ” อีกหนึ่งจุดชมวิวและกางเต็นท์ยอดนิยม
น่าเสียดายที่ฝั่งนี้มองเห็นทะเลหมอกไม่มากนัก แต่เราก็ถ่ายรูปคู่กับป้ายที่ทำการฯ
และตู้ไปรษณีย์มาเป็นที่ระลึก
จากนั้นเรากลับไปทานมื้อเช้าที่รีสอร์ท
อาบน้ำ เก็บของเสร็จแล้วล้อหมุนไปเที่ยวกันต่อเลยดีกว่า...พิกัดแรกปักหมุดกันที่ ไร่สตรอว์เบอร์รี่
GB
เขาค้อ ถึงแม้ช่วงนี้สตรอว์เบอร์รี่จะยังไม่ออกให้เราเก็บชิม
แต่ก็มีทุ่งดอกไม้สวยๆ อย่างคอสมอส, เวอร์บีน่า ฯลฯ ให้เราได้ถ่ายรูป
และยังมีชิงช้าให้นั่งเล่น ชมวิวภูเขาและทุ่งกังหันลมที่อยู่ล้อมรอบได้
เดินเล่นถ่ายรูปจนคอแห้ง แวะไปเติมพลังกันที่ Mongker
Drip Coffee ร้านกาแฟบรรยากาศดี
ตั้งอยู่ติดกับไร่สตรอว์เบร์รี่ GB มีที่นั่งเล่นให้เราจิบกาแฟชมวิวกันได้แบบชิลๆ
ระหว่างนั้นท้องฟ้าที่สดใสตอนเช้าก็เปลี่ยนเป็นเมฆครึ้มทะมึนมาแต่ไกล
ไม่ทันไร...สายฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เรานั่งรอให้ฝนซาสักพัก
จากนั้นก็ไปขึ้นรถรางเพื่อเข้าไปเที่ยวชมภายในทุ่งกังหันลม เขาค้อ
โดยซื้อตั๋วรถรางด้านหน้าคนละ 60 บาท
รถรางจะพาเข้าไปชมด้านในและแวะจอดรับส่งนักท่องเที่ยวเป็นจุดๆ
จุดแรกที่เราแวะคือ “ทุ่งเทเลทับบี้” ที่เที่ยวแลนด์มาร์คใหม่ของเขาค้อไปถ่ายรูปคู่กับเทเลทับบี้น่ารักๆ
พร้อมเดินเล่นชมสวนดอกไม้สวยๆ เสียค่าบัตรเข้าชมคนละ 40 บาท
หางบัตรสามารถนำไปเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มคาเฟ่ด้านในได้ด้วย
ไม่ใช่แค่ถูกใจสาวๆ
ที่ชอบเซลฟี่ นักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวมักจะแวะที่นี่
เพราะมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งการให้อาหารสัตว์ในฟาร์มอย่างแพะ แกะ ม้า ฯลฯ
หรือนั่งจิบ กาแฟ เครื่องดื่มชิลๆ นั่งเล่นชมวิวทุ่งกังหันลมที่อยู่ล้อมรอบได้ทั้งวัน
จุดที่สอง
รถรางพาเราแวะมาที่จุดเล่น “ฟอร์มมูล่าม้ง” น่าเสียดายที่บ่ายวันนั้นฟ้าครึ้ม
ลมพัดแรงเป็นสัญญาณว่าฝนกำลังจะตกในไม่ช้า เราเลยเราเลยเปลี่ยนไปเล่นชิงช้า
ถ่ายรูปชมวิวบริเวณรอบๆ แทนภ่ายรูปได้แค่แป๊ปเดียวฝนก็เทกระหน่ำลงมาอีกครั้ง...คราวนี้ตกหนักกว่ารอบแรก
แต่กลับทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกไปอีกแบบ
เรียกว่ามาเที่ยวเขาค้อทริปนี้...พวกเราไม่ง้อฝนกันจริงๆ
ตกได้ตกไป..รอให้ฝนหยุดแล้วก็ไปเที่ยวต่อกับแบบชิลๆ
เราโบกมือบ๊าย..บายทุ่งกังหันลม
ขับรถลงจากเขาค้อมุ่งหน้าไปทางอำเภอหล่มสัก
ตั้งใจว่าจะไปปิดท้ายทริปกันที่คาเฟ่น่ารักๆ
ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเขาค้อกับภูทับเบิกกันค่ะ
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเรากาถึง
“เลอ คันนา ฟาร์ม สเตย์ คอฟฟี่” คาเฟ่บรรยากาศดีที่มองเห็นทั้งวิวทุ่งนาและภูเขาแบบ
2 in 1
ภายในร้านมีมุมให้นั่งเล่นนั่งชิลหลายมุม
ทั้งมุมเก้าอี้ทรงสูงติดเคาน์เตอร์ไม้ตัวยาว เปลไม้ไผ่ให้นอนเล่นชิลๆ รับลมเย็นๆ
จากทุ่งนา
นอกจากเป็นคาเฟ่แล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารชื่อ
“ฮิมนา บาย เลอ คันนา” อยู่ใกล้ๆ กัน
สามารถสั่งมาทานที่ร้านกาแฟได้เราจัดเมนูขนมจีนชุดใหญ่ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทางร้านอย่างขนมจีนเส้นสด
เสิร์ฟพร้อมน้ำยา 3 อย่าง คือ น้ำยากะทิ, น้ำยาป่า
และน้ำยาหวานหรือน้ำยาถั่ว ที่ทำจากถั่วเหลืองต้มเอาไปบดแล้วผสมกับถั่งลิสงตำ
ปรุงรสโดยใช้หัวกะทิ ได้รสชาติหวานมันครบรส พร้อมผักสดและผักพื้นบ้านลวกเป็นเครื่องเคียงอีกชุดใหญ่
ความพิเศษของขนมจีนที่นี้ คือทางร้านจะผสมสีที่ได้จากชาเขียว,
ชาไทยลงไปทำให้ได้ขนมจีนสดใหม่ที่สีสวยน่ากินแปลกตา
ตบท้ายของหวาน
อย่างเค้กมะพร้าวอ่อนใบเตย เนื้อเค้กนุ่มๆ ได้รสชาติหอมหวานมันของมะพร้าว
และเค้กสตรอว์เบอร์รี่รสชาติเปรี้ยวอมหวาน พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ
ที่มีให้เลือกทั้งกาแฟอย่างเอสเพรสโซ่เย็น, ชาเขียว และน้ำผึ้งมะนาวอัญชันดื่มแล้วสดชื่นคลายร้อน
แถมราคาไม่แพงอีกด้วย
ด้านหลังร้านกาแฟยังเปิดเป็นที่พัก
ซึ่งเราสามารถไปเดินเล่นถ่ายรูปบนสะพานไม้กลางทุ่งนาได้
เรียกว่าปิดท้ายทริปเที่ยวเขาค้อกันแบบประทับใจ ได้เจอทะเลหมอกอย่างที่คาดหวัง
แม้อาจจะต้องเจอฝนบ้าง...แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินทางที่เราอยากให้ทุกคนออกไปลองค้นหากันค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ
คนไหนที่กำลังจะมีแพลนขับรถไปเที่ยวแบบพวกเรา อย่าลืมเลือกเติมน้ำมันดีๆ
อย่างซูพรีมพลัสที่ปั๊มเอสโซ่ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ง่ายๆ อีกมากมาย พิเศษรับ 250 คะแนน เมื่อผูกบัตรเอสโซ่
ผ่าน LINE @EssoThailand
ตั้งแต่ 17 กันยายน 2561 – 31 ธันวาคม 2561
สิทธิพิเศษดีๆ แบบนี้พลาดไม่ได้เลยค่ะ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น